สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย พร้อมสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ และภาคีเครือข่าย แถลงความพร้อมจัดศึกตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 37 จัดยิ่งใหญ่ 1-8 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช มี 29 ชาติ เข้าร่วม รวมนักกีฬากว่า 600 คน
//////////////////
นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานแถลงข่าวการแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 37 ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 31 ส.ค.67 ที่ผ่านมา โดยมี นายธนา ไชยประสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย, นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ อุปนายกสมาคมฯ และประธานสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ และประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ, มร.ฮาจิ อับดุล ฮาลิม บิน เคเดอร์ ผู้แทนสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ และ นางปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ร่วมแถลงความพร้อม
ศึกเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 37 จะแข่งขันระหว่างวันที่ 1-8 ก.ย.67 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช มี 29 ประเทศ เข้าร่วม โดยสมาคมกีฬาตะกร้อฯ ได้เตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งนี้อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา ทั้งนี้ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เป็นสถานที่จัดการแข่งขันที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกด้าน ด้วยพื้นที่จัดงานที่สามารถรองรับการจัดมหกรรมกีฬาขนาดใหญ่ได้ อัฒจันทร์ความจุ 3,500 ที่นั่ง และมีที่จอดรถภายในอาคารกว่า 3,500 คัน
สำรับศึกเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทานฯ “คิงส์คัพ” นับเป็นรายการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของกีฬาตะกร้อ ในปีนี้มีตัวแทนประเทศต่างๆ ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 29 ประเทศ มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 600 คน พร้อมคณะนักกีฬาผู้ติดตามและเจ้าหน้าที่ จากสหพันธ์ฯ อีกนับร้อยคน
การแข่งขันแบ่งออกเป็น 10 ประเภท ประกอบด้วย 1 เซปักตะกร้อทีมชุดชาย (ถ้วยพระราชทาน), 2 เซปักตะกร้อทีมชุดหญิง, 3 เซปักตะกร้อทีมเดี่ยวชาย, 4 เซปักตะกร้อทีมเดี่ยวชาย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี, 5 เซปักตะกร้อทีมเดี่ยวหญิง, 6 เซปักตะกร้อ 4 คนผสม (MIXED), 7 เซปักตะกร้อ 4 คนชาย, 8 เซปักตะกร้อ 4 คนหญิง, 9 ตะกร้อลอดห่วงสากลชาย, 10 ตะกร้อลอดห่วงสากลหญิง การแข่งขันจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ของทุกวัน พร้อมเปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าชมฟรี นอกจากนี้ยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันแมตช์สำคัญผ่านทาง YouTube และ Facebook ของสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย และสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ เพื่อให้แฟนกีฬาทั่วโลกได้ร่วมติดตามชมและเชียร์นักกีฬาได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ในพิธีเปิดการแข่งขันฯ วันที่ 1 ก.ย. เวลา 16.00 น. นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธาน ซึ่งจะมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่นอันงดงาม ส่วนวันที่ 8 ก.ย. เวลา 15.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีปิดการแข่งขันฯ พร้อมมอบถ้วยพระราชทานและเหรียญรางวัล ให้แก่นักกีฬาประเภททีมชุดชายที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ
ทั้งนี้ การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันตะกร้อ “คิงส์คัพ” ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น โดยเปิดโอกาสให้คนไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ได้มารู้จักประเทศไทยในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ศิลปะและวัฒนธรรมไทย การลิ้มรสอาหารพื้นเมือง หรือการจับจ่ายสินค้าในท้องถิ่น ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดนครราชสีมา อีกทางหนึ่งด้วย.
